ดอกแก้ว


ชื่อวิทยาศาสตร์: Murraya paniculata (L.) Jack
วงศ์: RUTACEAE
ชื่อสามัญ: Orange Jasmine, China Box, Andaman Satinwood, Cosmetic Bark Tree
ชื่ออื่น: แก้วขาว, แก้วลาย, แก้วขี้ไก่, แก้วพริก, ตะไหลแก้ว
ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก
ไม่ผลัดใบ สูง 5-10 ม. ลำต้น คดงอและบิด สีขาวปนเทา
เปลือกแตกเป็นร่องตามยาวและมักบิดเวียน
ใบ ใบเรียงเวียนสลับ
ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวปลายคี่ มีใบย่อย 3-9 ใบ
ใบรูปไข่หรือรูปรีหรือรูปข้าวหลามตัดเบี้ยว ยาว 1-2 ซม.
กว้าง 2-5 ซม. โคนใบมน ปลายใบแหลม
ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ที่ใบมีต่อมน้ำมัน
ดอก ดอกช่อ ออกเ็ป็นช่อสั้นๆ ตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ช่อละ 2-3 ดอก ก้านดอกยาว 0.5-1.0 ซม.
กลีบเลี้ยงสีเขียวขนาดเล็ก มี 5 แฉก ติดอยู่ทนจนถึงเป็นผล
กลีบดอกสีขาว 5 กลีบ กว้าง 0.5 ซม. ยาว
10-15 ซม. รูปรีหรือขอบขนาน ปลายกลีบมนหรือเรียวแหลม
บานเวลากลางคืน กลิ่นหอม เกสรเพศผู้มี 10 อัน สั้น 5 อัน ยาว 5 อัน เรียงสลับกันเป็นวง
ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 2-3 ซม. ขณะที่บานเต็มที่กลีบดอกม้วนออกและร่วงง่าย
ผล ผลรูปรี ยาวประมาณ 1 ซม. เมื่อแก่เปลือกมีสีส้มปนแดง ภายในมีเมล็ด 1-2 เมล็ด
No comments:
Post a Comment